ประเทศไทยเป็นที่ตั้งของละครรำโขงอาหารรสเผ็ดและมวยไทยมวยไทย อย่างไรก็ตามหากคุณกำลังมองหาการเข้าถึงเนื้อหา Netflix จากอเมริกาแสดงว่าคุณโชคไม่ดี นั่นไม่ใช่การเตะหัวใช่ไหม

การรุกของอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยอยู่ที่ 47.5% ของประชากร 68.9 ล้านคนในปี 2017 มีตัวเลขที่ทันสมัยไม่มากเท่าความเร็วการเชื่อมต่อในประเทศ แต่การจัดอันดับไตรมาสที่ 3 ปี 2015 ของ Akamai แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมี ความเร็วการเชื่อมต่อเฉลี่ย 8.2 Mbps

ผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ไทยสามารถเข้าถึงคอลเล็กชั่น Netflix ในประเทศไทย แต่พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงไลบรารีเนื้อหาของผู้ให้บริการสตรีมในสหรัฐอเมริกา

แม้ว่าฉันจะแน่ใจว่า Netflix ในประเทศนั้นมีความบันเทิง แต่มี จำกัด แต่ก็ไม่สามารถจับคู่จำนวนภาพยนตร์และรายการทีวีที่มีในสหรัฐอเมริกาได้

ดู Netflix ภาษาไทยนอกประเทศไทย

เมื่อคุณเยี่ยมชมเว็บไซต์ Netflix ในประเทศเช่นสหรัฐอเมริกาสหราชอาณาจักรออสเตรเลียหรือที่อื่นใดก็ตามที่คุณให้บริการเว็บไซต์ Netflix รุ่นท้องถิ่น

สิ่งนี้มีภาพยนตร์และรายการทีวีที่เฉพาะเจาะจงสำหรับภูมิภาคนั้นและภาษาต่าง ๆ ก็มุ่งไปที่ประเทศนั้นด้วย ตัวอย่างเช่นไซต์ American Netflix นั้นมุ่งเน้นไปที่ภาษาอังกฤษและสเปนเป็นอย่างมากเว็บไซต์ของอังกฤษและอื่น ๆ

เว็บไซต์ Thai Netflix มีคำบรรยายเสียงและคำบรรยายภาษาไทย แต่เมื่อคุณเข้าใช้งานในประเทศไทย

อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ที่จะเข้าถึงคำบรรยายภาษาไทยและคำบรรยายภาษาไทยในประเทศอื่น ๆ เช่นอเมริกาอังกฤษออสเตรเลียและที่อื่น ๆ ในการทำเช่นนี้คุณจะต้องได้รับแอปที่เรียกว่า Thailand VPN

สิ่งที่คุณต้องทำตอนนี้คือตรงไปที่เว็บไซต์ Netflix เหมือนปกติและคุณจะสังเกตเห็นในภาพยนตร์และรายการทีวีส่วนใหญ่ที่คุณเลือกคุณจะสามารถเลือกคำบรรยายเสียงหรือคำบรรยายภาษาไทย (CC)

อีกหนึ่งวิธีการที่ชาว Netflix น่าจะคุ้นเคยกันบ้างกับการใช้บริการ VPN เพื่อมุดไปดูคอนเทนท์ของ Netflix ในประเทศอื่นๆ ซึ่งอาจจะมีคอนเทนท์บางรายการที่ไม่มีให้บริการในประเทศไทยนั่นเองและหลายๆ คนนั้นก็อาจจะถูก Netflix นั้นจับได้ว่าผู้ใช้งานเหล่านั้นทำการมุด VPN จนทำให้ภายหลังไม่สามารถใช้ VPN เพื่อมุดได้  ซึ่งเราจะมาไขข้องใจกันว่าทำไม Netflix ถึงสามารถตรวจจับ VPN และทำไมพวกเขาถึงไม่ต้องการให้ผู้ใช้งานเลือกใช้ VPN ในการมุดไปดูคอนเทนท์ของประเทศอื่นๆ 

ทำไม Netflix ถึงไม่ต้องการให้ใช้ VPN 

ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า Netflix นั้นมีคอนเทนท์ไว้ให้บริการในแต่ละประเทศแตกต่างกันโดยในแต่ละประเทศนั้นก็จะมีเรื่องของลิขสิทธิคอนเทนท์ที่ Netflix สามารถให้บริการได้โดยที่ประเทศแต่ละประเทศจะมีไม่เหมือนกัน ซึ่งถ้าหากผู้ใช้งานประเทศ “A” ต้องการไปดูคอนเทนท์ “ก” 

ซึ่งประเทศ “A” ไม่มีให้บริการคอนเทนท์ “ก” เพราะผู้ถือลิขสิทธิเรื่องดังกล่าวยังไม่ปล่อยลิขสิทธิให้ Netflix แต่ผู้ใช้งานในประเทศ “A” นั้นใข้ VPN มุดไปดคอนเทนท์ “ก” ในประเทศ “B” นั้นจะทำให้ Netflix เกิดปัญหากับเจ้าของลิขสิทธิคอนเทนท์ดังกล่าวของประเทศ “A” ซึ่งนี่เป็นเหตุผลว่าทำไม Netflix ถึงไม่อยากให้ผู้ใช้งานนั้นใช้ VPN ก็เพราะว่าเป็นเรื่องลิขสิทธิ์นั่นเอง 

Netflix รู้ได้อย่างไรว่าผู้ใช้งานกำลังใช้ VPN อยู่

วิธีการก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่แปลกใหม่เลยสำหรับวงการไอทีเพราะ Netflix นั้นจะใช้การตรวจจับจาก IP Adress ร่วมกับ DNS ซึ่งการที่ผู้ใช้ทำการใช้งาน Netflix จะทำการเช็คว่า IP Address ดังกล่าวนั้นว่าตรงกับ ISP ของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตของประเทศนั้นจริงๆ หรือไม่ถ้าหากไม่ Netflix จะพิจรณาว่าผู้ใช้งานนั้นน่าจะทำการมุด VPN และทำการระงับการใช้งานของผู้ใช้รายนั้นจนกว่าระบบของ Netflix จะตรวจสอบว่า IP Adress, DNS นั้นตรงกับ ISP ของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในประเทศนั่นเอง